ธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นหรือที่รู้จักหันในชื่อของ “ธุรกิจ Start Up” หรือกิจการที่เริ่มดำเนินมาระยะหนึ่งแล้ว จะเริ่มเจอสิ่งที่เรียกว่า “งบกำไรขาดทุน” หรือ P&L (Profit and Loss Statement) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญของทุกธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม เพราะงบตัวนี้คือภาพรวมที่ชัดเจนที่สุดว่า “ธุรกิจของเรากำลังมีกำไรหรือขาดทุนอยู่กันแน่” เพราะไม่ใช่แค่ยอดขายมีเยอะแล้วจะอยู่รอดได้เสมอไป

P&L คืออะไร แล้วทำไมคนทำธุรกิจต้องรู้จัก
P&L หรือที่รู้จักกันในชื่อเรียกว่า “งบกำไรขาดทุน” คือรายงานทางบัญชีที่แสดงผลประกอบการของธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น รายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี โดยจะแสดงรายได้ทั้งหมดที่ธุรกิจได้รับ และค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น จนไปถึง “กำไรสุทธิ” ว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ หลังหักลบกลบหนี้แล้ว งบตัวนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญที่เจ้าของกิจการใช้ในการตัดสินใจ เช่น
- ธุรกิจควรลดต้นทุนตรงไหน
- รายได้มาจากช่องทางไหนมากที่สุด
- ค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่บานเกินไป
- ควรเริ่มขยายกิจการช่วงไหน และต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่
โครงสร้างของงบกำไรขาดทุน ฉบับเข้าใจง่าย
แม้จะเป็นรายงานที่ดูซับซ้อน แต่หากเข้าใจโครงสร้างหลัก ๆ จะเห็นว่ามีแค่ 3 ส่วนสำคัญคือ
- รายได้ (Revenue / Sales)
ยอดขายทั้งหมดที่ธุรกิจได้รับในช่วงเวลานั้น ซึ่งอาจรวมถึงรายได้จากบริการ หรือรายได้อื่นนอกเหนือจากยอดขายสินค้าหลัก - ค่าใช้จ่าย (Expenses)
เช่น ต้นทุนสินค้า, ค่าแรง, ค่าเช่าร้าน, ค่าโฆษณา, ค่าน้ำ-ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ - กำไรสุทธิ (Net Profit)
เป็นส่วนที่เหลือหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากรายได้ ซึ่งถือเป็น “กำไรจริง” ที่ธุรกิจสร้างได้ ไม่ใช่แค่ยอดขายที่ดูดีแต่ไม่มีเงินเหลือ
องค์ประกอบหลักของงบกำไรขาดทุน
โดยทั่วไปแล้ว งบ P&L ของธุรกิจขนาดเล็กจะประกอบด้วย 7 หัวข้อสำคัญ ๆ ดังนี้
- รายได้จากการขาย
คือยอดขายสินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น เช่น ขายเสื้อได้ 100 ตัว ตัวละ 200 บาท = รายได้ 20,000 บาท - ต้นทุนขาย (Cost of Goods Sold)
คือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหรือจัดหาสินค้านั้น เช่น ต้นทุนซื้อเสื้อผ้า ค่าขนส่งวัตถุดิบ ฯลฯ - กำไรขั้นต้น (Gross Profit)
คิดได้ง่ายๆ จาก รายได้จากการขาย – ต้นทุนขาย
ใช้ เป็นตัวชี้วัดว่าเราทำกำไรได้มากน้อยแค่ไหนต่อสินค้าหนึ่งชิ้น - ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses)
เช่น ค่าเช่าร้าน, เงินเดือนพนักงาน, ค่าการตลาด, ค่าไฟ ฯลฯ
แนะนำให้แยกให้ชัดเพื่อดูว่าแต่ละหมวดใช้เงินไปเท่าไหร่ - กำไรก่อนหักภาษี (Net Profit Before Tax)
คือเงินที่เหลือหลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว - ภาษีเงินได้นิติบุคคล / ภาษีบุคคลธรรมดา
ถ้าเป็นบริษัทต้องจ่ายภาษีตามเกณฑ์ที่กำหนด ตรวจสอบได้ที่ : กรมสรรพากร
ถ้าเป็นฟรีแลนซ์รายได้เกิน 120,000 บาท/ปี (หรือ 220,000 หากสมรส) ต้องยื่นภาษีด้วย - กำไรสุทธิ (Net Profit)
ตัวเลขสุดท้ายที่เจ้าของธุรกิจทุกคนควรจับตา เพราะมันคือผลกำไรขาดทุนจริงของกิจการ

ทำไมเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กถึงควรเริ่มดู P&L ตั้งแต่วันนี้
หลายธุรกิจขนาดเล็กมักรอจนสิ้นปีถึงจะให้สำนักงานบัญชีจัดทำงบให้ แล้วค่อยรู้ว่าปีนั้น “ขาดทุน” ซึ่งก็สายเกินไปแล้วที่จะปรับแผนอะไร
ถ้าคุณดู P&L เป็นประจำ เช่น รายเดือน หรือรายไตรมาส จะช่วยให้:
- แก้ไขปัญหาทางการเงินได้เร็ว
- ปรับแผนการขายให้เหมาะกับช่วงเวลา
- วางแผนภาษีได้ล่วงหน้า
- คุมรายจ่ายได้ดีขึ้น ไม่ปล่อยให้ต้นทุนบาน
ถ้าธุรกิจไม่ได้ทำงบ P&L จะเกิดอะไรขึ้น?
ปัญหาที่มักพบมากในหมู่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กคือ ไม่มีระบบเก็บข้อมูลบัญชีเลย
เช่น ไม่ได้จดรายรับรายจ่ายอย่างเป็นระบบ, รายการหาย, หาบิลไม่เจอ, บัญชีแยกยาก
ซึ่งพอถึงเวลาต้องคำนวณกำไรหรือทำงบส่งกรมสรรพากร ก็เกิดอาการ “ไปไม่เป็น”
นี่แหละครับที่ “โปรแกรมบัญชี” กลายมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ เพราะระบบจะช่วย:
- บันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายแบบอัตโนมัติ
- สรุปงบ P&L ได้ทันทีแบบเรียลไทม์
- ดูย้อนหลังเปรียบเทียบได้หลายเดือน
- ลดโอกาสผิดพลาดจากการจดมือ
ยิ่งใช้ โปรแกรมบัญชี AccCloud ก็จะยิ่งทำให้เห็นภาพรวมธุรกิจได้แบบครบจบในระบบเดียว หากสนใจลองดูเพิ่มเติมที่หน้านี้ครับ → โปรแกรมบัญชี AccCloud
การใช้โปรแกรมบัญชีจะช่วยทำ P&L ได้ง่ายขึ้น
การจัดทำงบ P&L ด้วยมืออาจเป็นเรื่องยากหากคุณไม่มีความถนัดด้านบัญชี แต่ถ้าใช้ โปรแกรมบัญชี AccCloud จะสามารถสร้างรายงานงบกำไรขาดทุนได้อัตโนมัติจากข้อมูลที่บันทึกไว้ ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย ใบเสร็จ ต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ข้อดีของการใช้ระบบช่วยคือ
- ไม่ต้องรอคำนวณงบถึงช่วงสิ้นปี เพราะถึงเวลานั้นอาจสายเกินไป
- ดูผลประกอบการแบบ Real-time ได้
- เช็คกำไรขาดทุนรายเดือน เพื่อตัดสินใจทางธุรกิจได้ทันท่วงที
- ลดความผิดพลาดจากการคำนวณด้วยตัวเอง
การดูงบกำไรขาดทุนไม่ใช่เรื่องของบัญชีเท่านั้น แต่คือวิธีมองธุรกิจของคุณแบบรอบด้านในระยะยาว ว่าอะไรที่เวิร์ก หรือไม่เวิร์ก และควรแก้ตรงไหน การเข้าใจพื้นฐานของ P&L จึงเป็นเรื่องที่เจ้าของกิจการควรรู้ และจะง่ายขึ้น ถ้ามีระบบบัญชีที่ช่วยแปลงข้อมูลทั้งหมดให้ออกมาเป็นงบอย่างถูกต้องและอัตโนมัติ
และหากธุรกิจของคุณยังไม่มีระบบจัดการบัญชีที่ดี อยากให้ลองเริ่มต้นด้วยการใช้ โปรแกรมบัญชี ที่เข้าใจง่าย ใช้งานได้ทันที ช่วยให้การบริหารธุรกิจง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะ AccCloud เป็นผู้ช่วยเรื่องตัวเลขที่คุณไว้ใจได้แน่นอน