โปรแกรมบัญชี AccCloud

Cloud ERP คืออะไร

Cloud ERP คืออะไร? ทำไมธุรกิจยุคใหม่ถึงหันมาใช้ระบบ Cloud มากขึ้น

การปรับตัวและนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับความอยู่รอดและการเติบโตขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันที่สูงขึ้น หนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมและเข้ามาปฏิวัติวิธีการบริหารจัดการธุรกิจคือ ระบบวางแผนทรัพยากรขององค์กรบนคลาวด์ (Cloud Enterprise Resource Planning – Cloud ERP) บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า Cloud ERP คืออะไร มีความแตกต่างจากระบบ ERP แบบเดิมอย่างไร และเหตุผลสำคัญอะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจยุคใหม่ทั่วโลกต่างหันมาให้ความสนใจและนำระบบ Cloud ERP ไปใช้งานมากขึ้น

Cloud ERP คืออะไร?

Cloud ERP คือ ระบบซอฟต์แวร์วางแผนทรัพยากรขององค์กร (ERP) ที่ถูก โฮสต์ (Hosted) และให้บริการผ่าน อินเทอร์เน็ต (Internet) บน เซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Provider) แทนที่จะติดตั้งและใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรเอง (On-Premise ERP) ในรูปแบบการให้บริการนี้ ผู้ใช้งานจะเข้าถึงระบบผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถใช้งานระบบได้จากทุกที่ทุกเวลาที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Cloud ERP และ On-Premise ERP

คุณสมบัติCloud ERPOn-Premise ERP
การติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการคลาวด์บนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กร
การเข้าถึงผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนอินเทอร์เน็ตภายในเครือข่ายขององค์กร (อาจมี VPN สำหรับการเข้าถึงจากภายนอก)
โครงสร้างพื้นฐานผู้ให้บริการคลาวด์เป็นผู้ดูแล (เซิร์ฟเวอร์, เครือข่าย, การจัดเก็บข้อมูล)องค์กรต้องลงทุนและดูแลเองทั้งหมด
การบำรุงรักษาผู้ให้บริการคลาวด์เป็นผู้ดูแล (การอัปเดต, การแก้ไขข้อผิดพลาด, ความปลอดภัย)องค์กรต้องมีทีม IT หรือ Outsource เพื่อดูแล
ต้นทุนเริ่มต้นมักมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ต่ำกว่า (Subscription Model)มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงกว่า (ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์, ฮาร์ดแวร์, การติดตั้ง)
ความยืดหยุ่นปรับขนาดทรัพยากรได้ง่ายตามความต้องการการปรับขนาดต้องมีการลงทุนในฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
ความปลอดภัยผู้ให้บริการคลาวด์มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด (Shared Responsibility)องค์กรต้องรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยเอง

5 เหตุผลหลักที่ธุรกิจยุคใหม่หันมาใช้ Cloud ERP มากขึ้น (5 Key Reasons for the Rise of Cloud ERP)

  1. ความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการเข้าถึง (Unparalleled Flexibility and Accessibility) ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความต้องการในการทำงานจากระยะไกลเพิ่มมากขึ้น ความสามารถในการเข้าถึงระบบ ERP ได้จากทุกที่ทุกเวลาจึงกลายเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ Cloud ERP ช่วยให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับระบบได้จากอุปกรณ์ใดก็ได้ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลทางการเงิน การอนุมัติการสั่งซื้อ หรือการจัดการสินค้าคงคลัง ความคล่องตัวนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อโอกาสและความท้าทายได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที
  1. การลดต้นทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทาง IT อย่างมีนัยสำคัญ (Significant Reduction in IT Infrastructure Costs)  หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดธุรกิจ SMEs ให้หันมาใช้ Cloud ERP คือการลดภาระด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทาง IT อย่างเห็นได้ชัด ระบบ On-Premise ERP จำเป็นต้องมีการลงทุนในเซิร์ฟเวอร์ ฮาร์ดแวร์ ระบบเครือข่าย และบุคลากร IT เพื่อดูแลและบำรุงรักษาระบบ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงและอาจเป็นอุปสรรคสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง ในขณะที่ Cloud ERP ช่วยลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ลงอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจจะจ่ายค่าบริการในรูปแบบของการสมัครสมาชิก (Subscription Model) ซึ่งรวมถึงค่าซอฟต์แวร์ ค่าโฮสต์ และค่าบำรุงรักษา ทำให้สามารถบริหารจัดการงบประมาณด้าน IT ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  1. ความสะดวกในการอัปเดตและบำรุงรักษาที่ไม่ยุ่งยาก (Simplified and Hassle-Free Updates and Maintenance) การบำรุงรักษาระบบ ERP แบบ On-Premise เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ทรัพยากรมาก องค์กรต้องวางแผนและดำเนินการอัปเดตซอฟต์แวร์ แก้ไขข้อผิดพลาด และดูแลความปลอดภัยของระบบด้วยตนเอง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและเสียเวลา ในทางตรงกันข้าม ผู้ให้บริการ Cloud ERP จะเป็นผู้รับผิดชอบในการอัปเดตระบบ การแก้ไขข้อผิดพลาด และการดูแลความปลอดภัย ทำให้ธุรกิจไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาระเหล่านี้ และสามารถมุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ การอัปเดตมักจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและราบรื่น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของผู้ใช้งาน
  1. มาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลที่ได้รับการยอมรับและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Robust and Continuously Evolving Data Security Standards)  แม้ว่าบางธุรกิจอาจมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ แต่ผู้ให้บริการ Cloud ERP ชั้นนำมักมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล พวกเขาลงทุนอย่างมากในเทคโนโลยีและบุคลากรด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลของลูกค้าจากการโจมตีทางไซเบอร์และการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ระบบ Cloud ERP มักมีการสำรองข้อมูล (Backup) และการกู้คืนข้อมูล (Disaster Recovery) ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะได้รับการปกป้องและสามารถกู้คืนได้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
  1. ความสามารถในการบูรณาการที่ยืดหยุ่นและขยายขีดความสามารถได้อย่างง่ายดาย (Flexible Integration and Seamless Scalability) ธุรกิจในยุคใหม่มักใช้แอปพลิเคชันและบริการออนไลน์ที่หลากหลาย Cloud ERP ได้รับการออกแบบมาให้สามารถบูรณาการกับระบบอื่นๆ ได้อย่างราบรื่นผ่าน Application Programming Interfaces (APIs) ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบเป็นไปอย่างอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Cloud ERP ยังมีความสามารถในการปรับขนาดทรัพยากรได้อย่างง่ายดายตามความต้องการของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน การเพิ่มโมดูล หรือการรองรับปริมาณข้อมูลที่มากขึ้น ธุรกิจก็สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้โดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม

ข้อควรพิจารณาในการเลือก Cloud ERP

แม้ว่า Cloud ERP จะมีข้อดีมากมาย แต่การเลือกผู้ให้บริการและระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ของผู้ให้บริการ ความเร็วและความเสถียรของอินเทอร์เน็ต มาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูล และความสามารถในการปรับแต่งระบบให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของธุรกิจ

Cloud ERP ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีที่กำลังมาแรง แต่เป็น “Game Changer” สำหรับธุรกิจยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความคล่องตัวในการดำเนินงาน ด้วยความยืดหยุ่นในการเข้าถึง การลดภาระด้าน IT ความสะดวกในการบำรุงรักษา มาตรฐานความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการบูรณาการและปรับขนาดที่ง่ายดาย Cloud ERP กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการธุรกิจในโลกดิจิทัล การทำความเข้าใจถึงประโยชน์และข้อควรพิจารณาของ Cloud ERP จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2025 และต่อๆ ไป หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ติดตามและแชร์บทความนี้หากเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน